ในยุคที่ผู้คนต้องเดินทางบ่อยหรือย้ายที่อยู่ไปต่างจังหวัด การขนส่งรถมอเตอร์ไซค์กลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ และหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมก็คือการ ส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ ซึ่งในปี 2566 บริการนี้ได้รับความนิยมสูงขึ้นเพราะมีความสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่ามากกว่าการขี่เอง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกลหรือส่งรถให้คนอื่น การใช้บริการ Logispost หรือ EMS Jumbo ของไปรษณีย์ไทย จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก ทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะได้แบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปของไปรษณีย์ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการได้ทุกขั้นตอน
🤔 ทำไมหลายคนเลือกส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์
เหตุผลที่หลายคนเลือกใช้บริการไปรษณีย์ในการส่งรถมอเตอร์ไซค์ก็เพราะว่ามีความสะดวกและปลอดภัยสูง ไม่ต้องเสียเวลาขี่รถข้ามจังหวัด และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือรถเสียกลางทาง บริการของไปรษณีย์ยังมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ ใช้เวลาจัดส่งไม่นาน และสามารถติดตามสถานะได้ตลอด มีหลายสาขาทั่วประเทศที่ให้บริการ นอกจากนี้ยังมี ประกันความเสียหายขั้นพื้นฐาน และสามารถซื้อประกันเพิ่มได้ในราคาย่อมเยา จึงเหมาะสำหรับทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการที่ต้องส่งรถให้ลูกค้าในต่างจังหวัดอย่างมั่นใจ
💸 ราคาค่าส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ปี 2566
ในปี 2566 นี้ ค่าส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทยมีการปรับราคาตามขนาดเครื่องยนต์และโซนต้นทาง-ปลายทาง โดยมีราคาคร่าว ๆ ดังนี้: รถไม่เกิน 150cc เริ่มต้นที่ประมาณ 1,200 บาท, รถขนาดกลาง 151–400cc จะอยู่ที่ประมาณ 1,500–2,100 บาท ส่วน รถใหญ่หรือบิ๊กไบค์ 401cc ขึ้นไปจะอยู่ที่ 3,300–4,000 บาท ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนัก มิติของรถ และระยะทางที่จัดส่ง หากรถมีขนาดใหญ่หรือแต่งพิเศษอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และควรสอบถามราคาจริงกับสาขาก่อนใช้บริการทุกครั้งเพื่อความแน่นอน
🗺️ โซนการจัดส่งและราคาที่ต่างกัน
ไปรษณีย์ไทยแบ่งพื้นที่การจัดส่งออกเป็น 10 โซน โดยราคาค่าส่งรถมอเตอร์ไซค์จะขึ้นอยู่กับว่าคุณส่งจากโซนไหนไปยังโซนใด ตัวอย่างเช่น หากส่งจากกรุงเทพฯ (โซน 1) ไปยังเชียงใหม่ (โซน 7) ราคาจะต่างจากการส่งในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างกรุงเทพฯ ไปนครปฐม โดยแต่ละโซนจะมีการกำหนดราคาอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคำนวณงบประมาณล่วงหน้าได้ ควรตรวจสอบว่าโซนต้นทางและปลายทางของคุณอยู่ในกลุ่มใด เพื่อประเมินราคาที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
📄 ขั้นตอนและเอกสารที่ใช้ในการส่ง
การส่งรถมอเตอร์ไซค์กับไปรษณีย์ไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชนผู้ส่ง 2 ชุด, สำเนาทะเบียนรถ 2 ชุด และหากชื่อผู้ส่งไม่ตรงกับชื่อเจ้าของรถ ก็ต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถด้วย หากเป็นรถโอนลอยให้เตรียมใบโอนลอยแนบไปด้วย เมื่อไปถึงสาขา เจ้าหน้าที่จะตรวจสภาพรถ ถอดกระจกข้าง และดูดน้ำมันออกหากเต็มถัง พร้อมแพ็กด้วยกระดาษหรือพลาสติกกันกระแทก (มีค่าบริการเพิ่มเติม) จากนั้นจึงชำระค่าบริการและรับหมายเลขติดตามพัสดุเพื่อตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์ของไปรษณีย์ได้ทันที
⏱️ ระยะเวลาในการจัดส่งและการติดตามพัสดุ
โดยปกติการส่งรถมอเตอร์ไซค์กับไปรษณีย์จะใช้เวลาประมาณ 5–7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับระยะทางและพื้นที่ปลายทางที่จัดส่ง หากปลายทางเป็นพื้นที่ห่างไกล หรือเป็นเกาะ อาจใช้เวลามากกว่านั้นเล็กน้อย แต่ผู้ใช้สามารถติดตามสถานะของรถได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบ Track & Trace บนเว็บไซต์ track.thailandpost.co.th หรือแอปพลิเคชันของไปรษณีย์ไทยโดยใช้หมายเลข 13 หลักที่ได้รับตอนฝากส่ง ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณอยู่ในระบบและสามารถติดตามได้ทุกขั้นตอนจนถึงมือผู้รับ โปร kfc วันอังคาร ล่าสุด 2567
✅ บทสรุป
บริการ ส่งรถมอเตอร์ไซค์ ไปรษณีย์ ราคา 2566 เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า สะดวก และปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการส่งรถไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเพื่อใช้งานส่วนตัว ขายให้ลูกค้า หรือส่งของขวัญให้คนพิเศษ การส่งผ่านไปรษณีย์ช่วยลดภาระในการขี่รถเอง มีขั้นตอนที่ชัดเจนและมีการประกันความเสียหายเบื้องต้น ทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย สำหรับปีนี้ราคายังคงเหมาะสมกับบริการ และมีความน่าเชื่อถือจากองค์กรระดับประเทศอย่างไปรษณีย์ไทย
❓ คำถามที่พบบ่อย
Q: ส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
A: สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนรถ, และใบโอนลอยถ้ามี
Q: ราคาส่งขึ้นกับอะไร?
A: ขนาดรถ cc, ระยะทาง และโซนปลายทาง
Q: ตรวจสอบสถานะพัสดุอย่างไร?
A: ใช้เลข 13 หลักตรวจผ่านเว็บไซต์ track.thailandpost.co.th
Q: ส่งแล้วใช้เวลานานแค่ไหน?
A: ประมาณ 5–7 วันทำการ