เกลือแร่แก้ท้องเสีย 7-11 ตัวช่วยง่าย ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว

dailywatchnew@gmail.com

เกลือแร่แก้ท้องเสีย 7-11

อาการท้องเสียเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะจากอาหารไม่สะอาด อาหารเป็นพิษ หรือไวรัสลำไส้ ซึ่งทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่จำนวนมากจนเกิดภาวะขาดน้ำ ถ้าไม่ดูแลอย่างถูกต้องอาจส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย เช่น อ่อนเพลีย หน้ามืด หัวใจเต้นผิดจังหวะ การดื่มเกลือแร่จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีอาการถ่ายเหลวหลายครั้งต่อวัน ซึ่งตอนนี้เราสามารถหาซื้อเกลือแร่แบบพกพาได้ง่าย ๆ ที่ 7-11 ใกล้บ้านทุกสาขา

เกลือแร่แก้ท้องเสียคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ

เกลือแร่แก้ท้องเสียหรือที่เรียกทางการว่า ORS (Oral Rehydration Salts) คือเครื่องดื่มชดเชยน้ำและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม และกลูโคส ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกายเวลาที่เราท้องเสีย เพราะเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วจากการถ่ายบ่อย ๆ แค่ดื่มน้ำเปล่าไม่พอ เนื่องจากไม่มีแร่ธาตุเข้ามาทดแทน การดื่มเกลือแร่จึงจำเป็นมากในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ เพราะช่วยป้องกันอาการขาดน้ำ และลดความเสี่ยงจากภาวะช็อกหรือหมดสติได้

เกลือแร่ใน 7-11 มียี่ห้อไหนบ้าง

ในร้านสะดวกซื้อ 7-11 มีเกลือแร่หลากหลายยี่ห้อที่ช่วยแก้ท้องเสียและชดเชยเกลือแร่ที่ร่างกายขาดไป โดยยี่ห้อยอดนิยม ได้แก่ ORS SEA, Oreda ORS, Osra R.O., DELYTE, X-L ซึ่งมาในรูปแบบซองผงพร้อมชงกับน้ำสะอาด หรือบางยี่ห้อมีแบบขวดสำเร็จรูปที่ดื่มได้ทันที จุดเด่นคือหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง อยู่ในช่วง 10-30 บาท เหมาะกับคนที่มีอาการไม่รุนแรงและต้องการการดูแลเบื้องต้นโดยไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล

วิธีเลือกเกลือแร่ให้เหมาะกับอาการ

ควรเลือกเกลือแร่ที่ระบุชัดว่าใช้สำหรับ “แก้ท้องเสีย” เท่านั้น ไม่ใช่เกลือแร่แบบนักกีฬา เพราะสูตรของเกลือแร่แต่ละแบบต่างกัน โดย ORS สำหรับท้องเสียจะมีสัดส่วนของโซเดียมและกลูโคสที่เหมาะสมตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ควรอ่านฉลากให้ดี โดยเฉพาะในกรณีที่ซื้อให้เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคประจำตัว เช่น เบาหวานหรือโรคไต ควรเลือกสูตรเฉพาะที่ไม่ผสมน้ำตาลสูงเกินไป และหากไม่แน่ใจควรปรึกษาเภสัชกรก่อนซื้อทุกครั้ง

วิธีใช้เกลือแร่แก้ท้องเสียอย่างปลอดภัย

เกลือแร่แต่ละยี่ห้อจะมีวิธีใช้กำกับที่ชัดเจน โดยทั่วไปจะใช้ชงกับน้ำสะอาด 250–500 มล. แล้วจิบทีละน้อยตลอดทั้งวัน ไม่ควรดื่มรวดเดียว เพราะจะทำให้ร่างกายรับไม่ทัน ควรดื่มทุกครั้งหลังถ่ายหรือรู้สึกเพลียจากการเสียของเหลวมาก และไม่ควรเก็บน้ำเกลือแร่ที่ชงแล้วเกิน 24 ชั่วโมง ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและไม่ควรผสมไว้ล่วงหน้า การใช้ให้ถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น ลดอาการอ่อนแรง และป้องกันการขาดน้ำได้อย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังในการดื่มเกลือแร่

แม้เกลือแร่จะปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสียทั่วไป แต่ในบางกรณี เช่น คนที่มีโรคไต เบาหวาน หรือความดันสูง ควรระวังเรื่องปริมาณโซเดียมในเกลือแร่ หากได้รับมากเกินไปอาจเกิดภาวะเกลือแร่ไม่สมดุลได้ อีกเรื่องที่ควรระวังคืออย่าใช้เกลือแร่ที่เป็นสูตรนักกีฬาในการรักษาท้องเสีย เพราะสูตรนั้นมีน้ำตาลสูงและไม่เหมาะกับการชดเชยอาการเสียเกลือแร่จากลำไส้ ที่สำคัญควรหยุดใช้และพบแพทย์ทันทีหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1–2 วัน หรือมีอาการอื่นร่วม เช่น ไข้สูง ปากแห้ง ตัวเย็น หรือถ่ายเป็นน้ำตลอดทั้งวัน สปอร์ติงลิสบอน พบ อาร์เซนอล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเกลือแร่จากเซเว่น

เด็กดื่มได้ไหม? ดื่มได้ แต่ควรเลือกสูตรเฉพาะสำหรับเด็กและผสมน้ำตามคำแนะนำบนฉลาก
เกลือแร่ชงกับน้ำอุณหภูมิเท่าไหร่? ใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงน้ำร้อน
ดื่มได้วันละกี่ครั้ง? ดื่มตามอาการถ่ายหรือรู้สึกอ่อนเพลีย โดยจิบเรื่อย ๆ ทั้งวัน
เกลือแร่ใช้ป้องกันท้องเสียได้ไหม? ไม่ควร เพราะออกแบบมาเพื่อรักษาอาการเท่านั้น
ซื้อจาก 7-11 ไว้ติดบ้านได้ไหม? ได้ เพราะเก็บได้นาน มีอายุบนซองชัดเจน สะดวกเวลาฉุกเฉิน

สรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม

เกลือแร่แก้ท้องเสีย 7-11 เป็นตัวเลือกง่าย ๆ ที่ใกล้ตัวเราทุกคน เหมาะกับอาการเบื้องต้นที่ยังไม่รุนแรง สามารถช่วยชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียจากการถ่ายหลายครั้ง ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้นในราคาหลักสิบ โดยไม่ต้องไปหาหมอทุกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามควรใช้อย่างเหมาะสม ไม่ใช้แทนการรักษาเมื่อมีอาการรุนแรง และควรเลือกเกลือแร่ที่เหมาะกับสุขภาพของตนเองทุกครั้ง พร้อมอ่านฉลากก่อนดื่มเสมอ

Leave a Comment